มาถึงภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งที่ทั้งโลกจับตามองครับ เป็นเรื่องที่เกี่ยวประวัติของบุคคลที่เปลี่ยนโลกของเทคโนโลยีไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยความ Creative ของเค้าทำให้ทั้งโลกเปลี่ยนแนวคิดกันไปเลย คนคนนั้นก็คือ Steve Jobs นั่นเอง ซึ่งชื่อเรื่องก็คือ “Jobs”
Poster สุดสวย
ชมตัวอย่างภาพยนตร์กันเลยครับ
คร่าวๆ
ภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้เล่าถึง Steve Jobs ว่าชีวิตวัยเรียนเป็นอย่างไร ความฝัน ความคิดริเริ่มของเค้า ที่จะทำสิ่งๆหนึ่งที่ไม่เคยมีใครคิดมาก่อน แต่ Jobs คิด แล้วมองไปยังอนาคตว่าทุกๆคนจะต้องชอบมันเป็นแน่แท้
ในเรื่องได้กล่าวถึงบุคคลที่ Jobs รู้จัก เพื่อน พ่อแม่ ศัตรูทางธุรกิจ (เต็มไปหมด) ซึ่งรายละเอียด ภาพยนตร์เรื่องนี้ นำมายัดให้เราเต็มที่(หรือเกินไป) ทำให้ตามไม่ทันบ้าง (ยิ่งถ้าคนไม่ได้อ่านหนังสือ Steve Jobs มาก่อนจะงงไปบ้าง) คนที่ชอบ แล้วสนุกตามไปด้วยแบบ 100% น่าจะเป็นคนที่อ่านหนังสือของ Steve Jobs มาก่อนแล้ว หรือเป็นสาวกขั้นเทพ จะดูอย่างเข้าใจทัน
คนดูอย่างเราๆ (ไม่ใช่สาวก Apple) อาจจะดูไม่เข้าใจ ว่าภาพยนตร์จะต้องการสื่อถึงอะไรของตัว Steve Jobs ในวัยหนุ่มกันแน่ โดยรวมๆ Ashton Kutcher แสดงออกถึงความเป็น Jobs ได้อย่างเกินตัว (คือเหมือนมาก) แสดงได้ดีจนน่าตกใจ นี่ Steve Jobs ลงมาเล่นเองเลยหรอเนี่ย ทั้งตอนหนุ่ม ตอนแก่ เหมือนเป๊ะ
ความทะเยอทะยานของ Steve Jobs นั้นทำให้เกิดการฉีกแนวอะไรที่เดิมๆ และทำให้เกิด นวัตกรรม (innovation) อะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นมาบนโลกมากมาย ในภาพยนตร์ก็อยากสื่อให้เห็นแบบนั้น อยากให้คนดูเห็นในสิ่งที่ Steve Jobs คิด หรืออยากให้เห็นสิ่งที่ Steve Jobs ทำ แต่เวลาภายใน 2 ชั่วโมง อาจจะทำให้เนื้อหาที่มีมากเกินไปนั้น สื่อออกมาได้ไม่ลึกซึ้งพอ ทำให้คนดูรู้สึกอารมณ์ค้าง โดยเฉพาะหลังจากช่วงที่ Steve Jobs โดนไล่ออกจาก บริษัทตัวเอง ภาพยนตร์ก็ดูดรอบลงอย่างเห็นได้ชัด บางอย่างก็เล่าสั้นเกินไปจนคนดูอาจงงได้ แต่ใครอ่านมาแล้วหรือรู้ประวัติของ Steve Jobs อยู่แล้วคงจะเฉยๆกับรายละเอียดพวกนี้
สุดท้าย
- สาวกถ้าพลาดจะเสียใจ
- ไม่ใช่สาวกถ้าไปดูอาจงงๆ และไม่สนุกอย่างที่ลุ้นเอาไว้
- จบแบบ อ้าวจบแล้วหรอ งงอยู่เลย
- จุดพีคของเรื่องแทบไม่มีให้เร้าใจเลย
ให้ 2.5/5 ครับ